ศูนย์บริหารกลยุทธ์และพัฒนาบุคลากร
Competency & Skills
สมรรถนะที่มุ่งหวังของบุคลากร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ที่มาและความสำคัญ
ตามที่คณะแพทยศาสตร์ได้กำหนดยุทธศาสตร์การบริหารคณะฯ ในวาระ 4 ปี (พ.ศ.2568 – 2572) โดยมีแนวคิดที่จะบริหารงานคณะแพทยศาสตร์ในวาระ 4 ปีนี้ และภายหน้าให้ประสบความสำเร็จอย่าง
มีคุณภาพตามวิสัยทัศน์ “โรงเรียนแพทย์ในดวงใจ โรงเรียนแพทย์ในดวงใจ เพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาวะ
ด้วยนวัตกรรม” (A Trustworthy Medical School for Health Sustainability Through Innovation) วิสัยทัศน์ดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดสู่การปฏิบัติผ่านกลยุทธ์หลัก MED CMU โดยเฉพาะในด้าน Modernized Workforce ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับทักษะบุคลากรให้มีความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง (Upskill/Reskill) ซึ่งสอดรับกับนโยบายของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มุ่งเน้นการจัดทำระบบแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล (CMU Proactive IDP) เพื่อพัฒนาสมรรถนะบุคลากรอย่างรอบด้าน ทั้งสมรรถนะหลัก (General Competency) และสมรรถนะตามตำแหน่งงาน (Functional Competency)
ซึ่งเชื่อมโยงกับการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปี

![13703860_business_workflow_operations-[Converted]](https://www.medhri.com/wp-content/uploads/2025/09/13703860_business_workflow_operations-Converted.png)
การวิเคราะห์ช่องว่างและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุผลดังกล่าวศูนย์บริหารกลยุทธ์และพัฒนาบุคลากร (MeDHRI) จึงได้ริเริ่มจัดทำสมรรถนะ
ที่มุ่งหวังของบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 อย่างไรก็ตาม จากการทบทวนกระบวนการและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการประชุม HRC พบว่าภายหลังการประเมินผลการปฏิบัติงาน การนำข้อปรับปรุงไปกำหนดแผนพัฒนาตนเองของบุคลากรยังขาดความชัดเจน อีกทั้งกรอบสมรรถนะและแผนการพัฒนาที่กำหนดไว้ยังไม่สามารถตอบสนองต่อกลยุทธ์ MED CMU และจุดเน้นของคณะฯ ได้อย่างเต็มศักยภาพด้วยเหตุนี้ ในปี พ.ศ. 2566 ศูนย์ MeDHRI จึงได้ปรับปรุงกระบวนการพัฒนาบุคลากร โดย บูรณาการการบริหารผลการปฏิบัติงาน (MED PMS) เข้ากับการจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล (IDP) เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การปรับปรุงนี้เป็นผลจากการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการในการพัฒนาบุคลากรอย่างครอบคลุม ทั้งจากความต้องการขององค์กร (Organization Need) ซึ่งรวมถึงเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ด้านคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล (เช่น TQA, EdPEx, HA, ISO) และแผนกำลังคนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Workforce Planning) รวมถึงความต้องการส่วนบุคคล (Personal Need) ที่ได้จากการวิเคราะห์ TOR/JA, Job Description, แผนพัฒนาตนเอง และผลสำรวจต่างๆ
ความสำคัญของการพัฒนาสมรรถนะ (Competency)
ในยุคปัจจุบันที่องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง การมีบุคลากรที่มีสมรรถนะสูง ถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันในระยะยาว ด้วยความตระหนักถึงความท้าทายดังกล่าว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงได้กำหนด Statement of Strategy ด้าน HR โดยมี HR Strategic Objective : SO “ที่มุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรให้ทันโลกด้วยนวัตกรรม ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี การมีส่วนร่วม และทักษะเพื่อการแข่งขันในระยะยาว” (Modernize workforce through innovation, fostering well being, engagement, and skills for long-term competitiveness)

การยกระดับคุณภาพบริการทางการแพทย์:
พัฒนาบุคลากรและสร้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อยกระดับมาตรฐานบริการทางการแพทย์ให้เป็นเลิศและปลอดภัย
การพัฒนาทักษะแห่งอนาคต:
มุ่งเน้นการยกระดับและปรับเปลี่ยนทักษะ (Upskill and Reskill) ของบุคลากรทั้งสายวิชาการและสายบริการ ให้มีทักษะด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งถือเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินงานในยุคดิจิทัล
การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร:
การพัฒนาสมรรถนะอย่างต่อเนื่องยังเป็นกลไกสำคัญในการปลูกฝังและเสริมสร้างค่านิยมองค์กร CQI2T ให้หยั่งรากลึกในทุกภาคส่วนของคณะฯ พร้อมทั้งขับเคลื่อนให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การสร้างสรรค์ และการมุ่งเน้นนวัตกรรมอย่างยั่งยืน

MED CMU Competency Framework
สมรรถนะที่มุ่งหวังของบุคลากร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Competency and Skill)ประกอบไปด้วย สมรรถนะทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่

Core Competency
สมรรถนะหลัก
คุณลักษณะเชิงพฤติกรรม ที่กำหนดเป็นคุณลักษณะร่วมของบุคลากรทั้งระบบ เพื่อเป็นการหล่อหลอมค่านิยม และพฤติกรรมที่พึงประสงค์ร่วมกัน
ได้แก่ค่านิยมองค์กร CQI2T ประกอบไปด้วย
สมรรถนะที่ 1 C : Customer Focus (มุ่งเน้นผู้รับบริการ)
สมรรถนะที่ 2 Q : Quality (ทำงานมีคุณภาพ)
สมรรถนะที่ 3 I : Innovation (ซึมซาบนวัตกรรม)
สมรรถนะที่ 4 I : Integrity (คุณธรรมคู่ความดี)
สมรรถนะที่ 5 T : Teamwork (ทีมสามัคคี มีผลงาน)


Managerial Competency
สมรรถนะด้านการบริหาร
คุณลักษณะเชิงพฤติกรรมที่กำหนดเป็นคุณลักษณะร่วมของตำแหน่งประเภทอํานวยการและประเภทบริหาร เพื่อให้สามารถบริหารจัดการองค์กร หรือหน่วยงานให้บรรลุตามวิสัยทัศน์และพันธกิจที่กำหนดไว้ ประกอบไปด้วยสมรรถนะกลุ่ม LEADS โดยมีรายละเอียดดังนี้
สมรรถนะกลุ่มที่ 1 L : Leadership Skills
• Leadership
• Change Management
สมรรถนะกลุ่มที่ 2 E : Enterprise Strategy
• Strategic Thinking
• Accounting & Finance
สมรรถนะกลุ่มที่ 3 A : Adaptive innovation
• Innovative Thinking
• Resilience, Flexibility & Agility
สมรรถนะกลุ่มที่ 4 D : Digital transformation
• Lean & Agile Management
• Technology & Data Skills
สมรรถนะกลุ่มที่ 5 S : Sustainable Business
• Business accumen
• Market Understanding
Power Skills
ทักษะเพื่อการขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร
กลุ่มทักษะที่ส่งเสริมให้บุคลากร มี Soft Skills ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์ขององค์กรในด้านต่างๆ ได้แก่
ทักษะที่ 1 : การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking)
ทักษะที่ 2 : ทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์และดิจิทัล (AI & Digital Skills)
ทักษะที่ 3 : การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication skill)
ทักษะที่ 4 : ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability)


Functional Competency
สมรรถนะเฉพาะตามลักษณะงานที่ปฏิบัติ
ความรู้ ทักษะ และความสามารถเฉพาะด้านที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานในตำแหน่งหรือสายงานนั้น ๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายขององค์กร แบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้แก่
ส่วนที่ 1 สมรรถนะตามสายงาน (Professional Competency)
สมรรถนะตามตำแหน่งงานที่นอกเหนือจากที่มหาวิทยาลัยกำหนด (CMU Functional Competency) เป็นสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ โดยแบ่งตามประเภทของกลุ่มบุคลากร ได้แก่
- บุคลากรกลุ่มวิชาการ (Academic staff) เช่น ศ.เงินเดือนขั้นสูง, ศาสตราจารย์, รองศาสตราจารย์, ผู้ช่วยศาสตราจารย์, อาจารย์ เป็นต้น มีสมรรถนะที่สำคัญคือ METS/STEM
- บุคลากรกลุ่มนักวิจัย/ผู้ช่วยนักวิจัย มีสมรรถนะที่สำคัญคือ ทักษะด้านการวิจัย (Research skill)
- บุคลากรกลุ่มพยาบาล สมรรถนะเฉพาะตามลักษณะงานที่ปฏิบัติ เป็นไปตามที่ฝ่ายการพยาบาลกำหนด
ส่วนที่ 2 สมรรถนะตามตำแหน่งงาน (CMU Functional Competency)
ทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดและใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมิน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้ กลุ่มปฏิบัติการและวิชาชีพ
1. กลุ่มปฏิบัติงานทั่วไป 25 ตำแหน่งงาน
1.1 สมรรถนะตามตำแหน่งงานบริหารงานบุคคล
1.2 สมรรถนะตามตำแหน่งงานพัสดุ
1.3 สมรรถนะตามตำแหน่งงานวิเคราะห์นโยบายและแผน
1.4 สมรรถนะตามตำแหน่งงานกิจการนักศึกษา
1.5 สมรรถนะตามตำแหน่งงานประชาสัมพันธ์
1.6 สมรรถนะตามตำแหน่งงานวิชาการศึกษา
1.7 สมรรถนะตามตำแหน่งงานวิเทศสัมพันธ์
1.8 สมรรถนะตามตำแหน่งงานบริหารงานวิจัย
1.9 สมรรถนะตามตำแหน่งงานบริหารงานทั่วไป
1.10 สมรรถนะตามตำแหน่งงานเทคโนโลยีการศึกษา
1.11 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนิติกร
1.12 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักการเงินและบัญชี
1.13 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักตรวจสอบภายใน
1.14 สมรรถนะตามตำแหน่งงานบรรณารักษ์
1.15 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักสถิติ
1.16 สมรรถนะตามตำแหน่งงานพนักงานปฏิบัติงานช่วยสอน
1.17 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักช่างศิลป์
1.18 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักจิตวิทยา
1.19 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักสุขศึกษา
1.20 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักวิทยาศาสตร์เกษตร
1.21 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักวิทยาศาสตร์
1.22 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักวิทยาศาสตร์การแพทย์
1.23 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักเวชสถิติ
1.24 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักโภชนาการ
1.25 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักสังคมสงเคราะห์
2. กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ 18 ตำแหน่งงาน
2.1 สมรรถนะตามตำแหน่งงานสถาปนิก
2.2 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักวิชาการคอมพิวเตอร์
2.3 สมรรถนะตามตำแหน่งงานวิศวกร
2.4 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักกิจกรรมบำบัด
2.5 สมรรถนะตามตำแหน่งงานทันตแพทย์
2.6 สมรรถนะตามตำแหน่งงานแพทย์
2.7 สมรรถนะตามตำแหน่งงานสัตวแพทย์
2.8 สมรรถนะตามตำแหน่งงานเภสัชกร
2.9 สมรรถนะตามตำแหน่งงานพยาบาล
2.10 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักเทคนิคการแพทย์
2.11 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักรังสีการแพทย์
2.12 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักกายอุปกรณ์
2.13 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก
2.14 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย
2.15 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักจิตวิทยาคลินิก
2.16 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์
2.17 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักกายภาพบำบัด
2.18 สมรรถนะตามตำแหน่งงานนักฟิสิกส์การแพทย์