โครงการ/กิจกรรม

ในวันที่ 28 ตุลาคม 2568 รศ.พญ.สุรินทร์พร ลิขิตเสถียร รองคณบดีด้านทรัพยากรมนุษย์และวัฒนธรรมองค์กร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ "หลักสูตร Creativity and Innovation for Effective Work Performance" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมต่อการพัฒนางาน สามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือและเทคนิคความคิดสร้างสรรค์ ในการวิเคราะห์ปัญหา อีกทั้งมีความรู้ที่ตอบสนองต่อสมรรถนะที่มุ่งหวัง (Competency and Skill) โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการนี้ ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มณิษวาส จินตพิทักษ์ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มช. เป็นวิทยากรบรรยาย ณ ห้องเรียน MeVision ศูนย์บริหารกลยุทธ์และพัฒนาบุคลากร ชั้น 7 อาคารเรียนรวม คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

✨ ที่ MEDCMU ... เรามองเห็นตัวตนของคุณ ในโอกาสที่นโยบาย DEIB ของคณะฯ ก้าวสู่ปีที่สอง, เราขอตอกย้ำคำมั่นสัญญาที่ว่า ‘ที่นี่... ทุกคนมีคุณค่า ทุกเสียงมีความหมาย’ เราเชื่อว่าพลังสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่เกิดจาก ‘เมื่อคนต่างประสบการณ์มารวมตัวกัน’ เราจึงมุ่งมั่นสร้างวัฒนธรรมแห่ง ความหลากหลาย ความเสมอภาคเท่าเทียม, การมีส่วนร่วม, และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับคณะฯ ให้เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ทุกคนได้เปล่งประกายแสดงศักยภาพในแบบของตัวเอง เพราะการยอมรับความแตกต่างเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ ‘การที่ทุกคนรู้สึกได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะฯ’ คือจุดหมายที่แท้จริงของเราทุกคน มาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน - DEIB คืออะไร? คือแนวทางสร้างองค์กรให้แข็งแกร่งและเกิดนวัตกรรม ด้วย ความหลากหลาย (Diversity), ความเสมอภาคเท่าเทียม (Equity), การมีส่วนร่วม (Inclusion), และ การเป็นส่วนหนึ่ง (Belonging) ของทุกคน - Speak Up คืออะไร? คือการสร้างความปลอดภัยทางจิตวิทยา (Psychological Safety) ที่ทุกคนสามารถ "กล้าคิด กล้าพูด และกล้าเสนอแนะ" เพื่อพัฒนาองค์กรร่วมกันได้อย่างเปิดเผยโปร่งใส -Awareness Day คืออะไร? คือกิจกรรมตลอดปีที่เปลี่ยนนโยบายให้เป็นการปฏิบัติจริง ผ่าน การเรียนรู้ร่วมกัน เช่นการประชาสัมพันธ์ วันผู้พิการ วันสตรีสากล วันสุขภาพจิตโลก ประกาศ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง นโยบายการบริหารความหลากหลาย ความเสมอภาค การมีส่วนร่วมยอมรับความแตกต่าง และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับองค์กร Diversity, Equity, Inclusion, and Belonging (DEIB) พ.ศ. 2567 https://o365cmu-my.sharepoint.com/:f:/g/personal/patipak_wipa_cmu_ac_th1/Eut9GSA49d9IvHsc88fjUGoBfzJZUoEvf3B5jAcKJZWu9w?e=qfcqeA Photo by Hannah Busing on Unsplash

การประชุมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คณะแพทยศาสตร์ส่วนภูมิภาค 3 สถาบัน ครั้งที่ 34 รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ มช. ร่วมการประชุมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คณะแพทยศาสตร์ส่วนภูมิภาค 3 สถาบัน ครั้งที่ 34 ในระหว่างวันที่ 20-21 ตุลาคม 2568 โดยมี รศ.นพ.ภัทรพงษ์ มกรเวส คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานในพิธี และกล่าวต้อนรับ, และผศ.นพ.กิตติพงศ์ เรียบร้อย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากคณะแพทยศาสตร์ส่วนภูมิภาค 3 สถาบัน เข้าร่วมประชุม เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสถาบันแพทยศาสตร์ส่วนภูมิภาคทั้ง 3 สถาบัน และเป็นโอกาสอันดีในการนำเสนอผลการปฏิบัติงานที่ประสบผลสำเร็จ ในวันที่ 20-21 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ภาพ / ข่าว : งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ดูแลใจในที่ทำงาน: ก้าวสู่องค์กรแห่ง 'ความปลอดภัยทางจิตใจ' ไปด้วยกัน ในโอกาส วันสุขภาพจิตโลก (World Mental Health Day) ศูนย์บริหารกลยุทธ์และพัฒนาบุคลากรขอส่งต่อความห่วงใยและตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการสร้างสรรค์พื้นที่ทำงานที่ทุกคนรู้สึกปลอดภัยและมีพลังใจที่ดี องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ชี้แนะว่า สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีคือเกราะป้องกันปัญหาสุขภาพจิตที่สำคัญที่สุด คณะฯ ของเราจึงยึดมั่นในแนวทางนี้ และมุ่งสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งภายใต้ค่านิยม CQI²T เพื่อให้บุคลากรทุกคนได้ปลดปล่อยศักยภาพอย่างเต็มที่ ผ่านแนวทางเชิงรุกของเรา 1. กลยุทธ์หลักเพื่อพลังใจ: ความปลอดภัยทางจิตใจ (Psychological Safety) เป้าหมายปี 2568: เราได้กำหนดให้ "Wellbeing & Psychological Safety" เป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ HR เพื่อสร้างรากฐานองค์กรที่มั่นคงและเกื้อกูล ส่งเสริมความกล้า: เราสนับสนุนให้บุคลากรทุกคน "กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก" ในพื้นที่ที่ปลอดภัยและไว้วางใจกัน เปิดใจรับฟัง: เราใช้เครื่องมือ MEDS Check-in (Meaningful Conversation) ในทุกไตรมาส เพื่อเป็นโอกาสให้หัวหน้าได้โค้ชและดูแลทีมงานอย่างใกล้ชิด สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงและปลอดภัยทางใจ 2. รับมือความท้าทาย: ลดภาวะหมดไฟและส่งเสริมการมีส่วนร่วม ป้องกันภาวะหมดไฟ (Burnout): เรามี SHA Program ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ (Emotional Exhaustion) และความรู้สึกแปลกแยก (Depersonalization) สร้างสังคมแห่งการมีส่วนร่วม (Inclusion): เราใช้ DEIB Program เพื่อเปิดรับและดึงคุณค่าจากความหลากหลายของบุคลากร ทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอย่างแท้จริง 3. เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์: ความแข็งแกร่งขององค์กร (Organizational Resilience) ระบบดูแลฉับไว: เรามีระบบประเมินและดูแลสุขภาพจิตของบุคลากรอย่างรวดเร็วเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤต เช่น การประเมินผ่าน Line @Suandok หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที สุขภาพใจของคุณคือสิ่งสำคัญ มาร่วมกันใช้เครื่องมือและช่องทางสนับสนุนที่คณะฯ ได้เตรียมไว้ เพื่อดูแลใจของตนเองและเพื่อนร่วมงาน และสร้างองค์กรที่แข็งแรงทั้งกายและใจไปด้วยกัน